- อันตรายจากไฟอาร์ก
นอกจากแสงสว่างจ้าจากไฟอาร์กที่เรามองเห็นแล้ว ยังมีสิ่งที่มาด้วยแต่เรามองไม่เห็น คือ แสงอุลตร้าไวโอเล็ตและแสงอินฟาเรด ซึ่งทำลายดวงตา และทำให้ผิวหนังไหม้ได้ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมไฟฟ้า จึงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐาน กระจกดำธรรมดา หรือแม้แต่แว่นสำหรับเชื่อมแก๊ส ไม่อาจใช้ป้องกันรังสีจากไฟอาร์กได้ รังสีอุลตร้าไวโอเล็ตที่มากับแสงอาร์กของไฟเชื่อม จะก่อให้เกิดการระคายเคืองในดวงตา ช่างเชื่อมในช่วงฝึกหัด จะยังไม่คล่องกับจังหวะการปิด-เปิดหน้ากากเชื่อมอาจทำให้พลาดมองเข้าไปในไฟอาร์กบ่อยครั้ง จนต้องไปนอนปวดแสบปวดร้อนดวงตาเหมือนทรายอยู่ในตา ต้องรักษาอยู่หลายวัน ประมาทมากอาจทำให้เสียสายตาถึงตาบอดได้ นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่สถานศึกษาต้องมีห้องเชื่อมและสถานประกอบการควรมีฉากบังแสง ไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น และเด็กๆ ที่สอดรู้สอดเห็นมองเข้าไปยังไฟอาร์ก
- อันตรายจากไอก๊าซและควันจากการเชื่อม
แม้จะดูเหมือนว่าไฟอาร์กไม่ใช่การเผาไหม้โดยตรง แต่ขณะเชื่อมไฟฟ้าจะเกิดการสูญเสียออกซิเจนในอากาศจำนวนมาก นอกจากนั้น การหลอมละลายของลวดเชื่อมกับการเผาไหม้ของฟลักซ์หุ้มลวดเชื่อมก่อให้เกิดควันและอากาศเสียที่ต้องการระบายอากาศที่ดี หรือมีระบบดูดควันพิษจากบริเวณรอบๆ จุดอาร์กออกไป
- อันตรายจากความร้อน
การเชื่อม เป็นการหลอมโลหะเข้าด้วยกัน ดังนั้น จึงต้องคำนึงถึงความร้อนที่เกิดขึ้น น้ำโลหะและสแลคอาจจะกระเด็นใส่ผู้เชื่อมหรือสิ่งของอื่นในบริเวณนั้นจนเกิดลุกไหม้ขึ้นได้ บาดแผลจากไฟไหม้จะรักษาให้หายได้ยากกว่าบาดแผลจากอุบัติเหตุอื่น ดังนั้น จึงไม่ควรละเลยในเรื่องของความปลอดภัยและอุปกรณ์ป้องกันตัว โลหะอาจร้อนจัด แม้ไม่เปล่งแสงให้เห็นการจะหยิบจับต้องแน่ใจ ใช้คีมคีบจะดีที่สุด ในรัศมีประมาณ 10 เมตร จากจุดเชื่อมจะต้องไม่ให้มีเชื้อเพลิงอยู่ในบริเวณนั้น ทรายแห้งอาจเป็นวัสดุดับไฟที่ดีในยามฉุกเฉินที่ควรเตรียมเอาไว
- อุบัติภัยถึงชีวิต
ไฟฟ้ามีหรือไม่ เรามองไม่เห็น ช่างเชื่อมไม่ควรประมาท ที่เยอรมันจะเตือนกันอยู่เสมอว่าไม่ให้เชื่อมด้วยมือเปล่า เราจำเป็นต้องใส่ถุงมือป้องกันอันตรายอันอาจเกิดขึ้นได้